116 Views |
สำรวจชาฟังก์ชันเพื่อปฏิวัติเทรนด์ดูแลสุขภาพยุคใหม่
Exploring Functional Tea Fueled the Wellness Revolution
By: ณัฐชยา ดวงจรัส
Natchaya Duangjarus
Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine
editor@foodfocusthailand.com
ปัจจัยที่มีผลต่อความต้องการดื่มชาในปัจจุบันไม่เพียงแค่การรับรสชาติและกลิ่นหอมที่ช่วยสร้างความผ่อนคลายเท่านั้น แต่ปัจจุบันผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับประโยชน์เชิงสุขภาพที่หลากหลาย ทั้งจากองค์ประกอบหลักของชานั้นๆ และการเสริมสารอาหารเพื่อให้มีคุณสมบัติเฉพาะ จึงมีการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ชาทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดึงดูดใจผู้บริโภคอย่างชาฟังก์ชัน (Functional tea) ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น
บทความนี้ จึงขอยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ชาฟังก์ชันที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในแง่ต่างๆ เพื่อจุดประกายไอเดียให้สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ชาฟังก์ชันที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่รักสุขภาพ พร้อมชิงส่วนแบ่งการตลาดผลิตภัณฑ์ชาที่กำลังเติบโตนี้ได้
1. สุขภาพผิว
ผลิตภัณฑ์ชาฟังก์ชันที่ส่งเสริมสุขภาพผิวกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพจากภายในสู่ภายนอก โดยชาประเภทนี้มักมีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และคอลลาเจนเพื่อช่วยเสริมความยืดหยุ่นของผิว ลดริ้วรอย และเพิ่มความชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังสามารถผสมสมุนไพรที่ช่วยดีท็อกซ์และลดการอักเสบ ซึ่งล้วนส่งผลดีต่อสุขภาพผิวด้วยเช่นกัน
2. สุขภาวะทางอารมณ์
ปัจจุบัน ผู้บริโภคต่างมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างสุขภาพทางกายและอารมณ์มากขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2565 มินเทลได้รายงานว่า ผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมการนอนหลับและการจัดการความเครียดนั้นได้รับความนิยมอย่างยิ่ง ซึ่งส่วนผสมฟังก์ชันที่มักใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ คือ คาโมมายล์ ลาเวนเดอร์ กะเพรา และเห็ดยามาบูชิตาเกะ
3. สุขภาพลำไส้
กระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้นของสุขภาพลำไส้ถือเป็นแรงผลักดันที่สำคัญที่ทำให้เกิดความต้องการชาฟังก์ชันที่ช่วยส่งเสริมระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากผู้บริโภคมีความตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างสุขภาพลำไส้และสุขภาพองค์รวมมากขึ้น จึงมองหาโซลูชันที่เป็นธรรมชาติเพื่อเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับการย่อยอาหารนี้ ซึ่งชาฟังก์ชันที่มีส่วนผสมอย่างขิง สะระแหน่ และเฟนเนล ถือว่ากำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเนื่องจากมีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้ การผสมผสานโพรไบโอติกส์ในผลิตภัณฑ์ชายังถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อส่งเสริมสุขภาพลำไส้ให้ดียิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
The current demand for tea is not just about its taste and aroma for relaxation. It's also about the unique health benefits it offers. This includes the tea's natural components and the added fortifications that cater to specific health needs. This unique selling point has led to the rise of functional tea.
This article will highlight interesting examples of functional tea product trends. It will encourage readers to explore how brands are innovating to meet the needs of increasingly health-conscious consumers and spark ideas for how to develop and compete for share in this dynamic tea market.
1. Healthy Skin
Teas that promote skin health are on the rise as consumers become more mindful of their skincare journey from the inside out. These teas often contain antioxidants, vitamins, and collagen, which help improve skin elasticity, reduce the appearance of wrinkles, and hydrate the skin. They also contain natural herbs and botanicals that help detoxify and reduce inflammation, all of which have beneficial effects on skin health.
2. Emotional Health
Nowadays, consumers are increasingly seeking products that support both physical and emotional well-being. Mintel's 2022 report highlights that products promoting sleep and stress management are especially popular. Functional ingredients commonly found in this type of product are chamomile, lavender, holy basil, and Lion’s mane mushroom.
3. Gut Health
The growing trend of gut health is significantly driving the demand for functional teas that offer digestive support. As consumers become more aware of the link between gut health and overall well-being, they are increasingly seeking natural solutions to address digestive issues. Functional teas infused with ingredients like ginger, peppermint, and fennel are gaining popularity for their soothing properties. Additionally, the incorporation of probiotics into teas enhances their benefits by promoting a healthy gut microbiome.