221 Views |
แนวทางการตรวจสุขภาพห้องเย็นเพื่อรักษาอุณหภูมิและลดการใช้พลังงาน
Guidelines for Cold Storage Health Check to Maintain Temperature and Reduce Energy Consumption
By: ผศ.ดร. ณัฐวุฒิ ชาวเมือง
Asst. Prof. Nattawut Chaomuang, Ph.D.
Department of Food Engineering
School of Engineering
King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang
nattawut.ch@kmitl.ac.th
By: รศ.ดร. พรธิภา องค์คุณารักษ์
Assoc. Prof. Pornthipa Ongkunaruk, Ph.D.
Department of Industrial Engineering
Faculty of Engineering
Kasetsart University
pornthipa.o@ku.th
อุณหภูมิในการเก็บรักษาเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่มีผลต่อคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร เนื่องจากอาหารส่วนใหญ่ล้วนเป็นผลิตภัณฑ์ที่เน่าเสียได้ง่ายและมีอายุการเก็บรักษาสั้น ดังนั้น การจัดการอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมย่อมก่อให้เกิดความสูญเสียและสร้างขยะอาหาร จากผลการศึกษาของสถาบันระบบทำความเย็นนานาชาติ (International Institute of Refrigeration; IIR) พบว่า การใช้ระบบทำความเย็นในโซ่อุปทานที่ไม่เพียงพอส่งผลให้เกิดความสูญเสียอาหาร (Food loss) สูงถึง 475 ล้านตันต่อปี โดยความสูญเสียมากกว่าร้อยละ 60 เกิดขึ้นในประเทศที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง
วิธีการประเมินประสิทธิภาพในการควบคุมอุณหภูมิของห้องเย็น
นอกเหนือจากการตั้งค่าอุณหภูมิในห้องเย็นให้เพียงพอและเหมาะสมกับประเภทของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเก็บรักษาแล้ว การควบคุมอุณหภูมิให้มีความสม่ำเสมอทั่วทั้งห้องเย็นถือเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกันโดยในทางปฏิบัติการควบคุมอุณหภูมิของห้องเย็นให้มีความสม่ำเสมอยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทายเนื่องจากความแตกต่างของอุณหภูมิภายในห้องเย็น ซึ่งอาจจะสูงถึง 10 oC โดยอากาศบริเวณใกล้กับเครื่องเป่าลมเย็น (Fan Coil Unit; FCU) มักจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าอากาศที่อยู่ห่างไกลออกไป โดยเฉพาะบริเวณที่ใกล้กับทางเข้า-ออกของห้องเย็น ดังนั้น การประเมินประสิทธิภาพในการรักษาอุณหภูมิของห้องเย็นด้วยการจัดทำแผนผังอุณหภูมิห้องเย็น (Temperature mapping) จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องดำเนินการเป็นประจำ โดยตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO Effective Vaccine Management; EVM) กำหนดให้จัดทำแผนผังอุณหภูมิสำหรับห้องเย็นในการเก็บรักษายาและเวชภัณฑ์ทุกๆ 2 ปี ในขณะที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (Food and Drug Administration; FDA) กำหนดให้มีการติดตามและตรวจวัดอุณหภูมิในห้องเย็นสำหรับเก็บรักษาอาหารเป็นประจำ เป็นต้น
Storage temperature is one of the main factors affecting the quality and food safety, as most foods are perishable products and have short shelf life. Hence, improper temperature management inevitably leads to losses and food waste. From a study by the International Institute of Refrigeration (IIR), found that inadequate use of refrigeration systems in the supply chain result in food loss of up to 475 million tons per year, with over 60% of the losses occurring in low- to middle-income countries.
Methods for Evaluating the Temperature Control Efficiency of Cold Storage
Besides setting the temperature of the cold storage to be sufficient and suitable for the product types to be stored, controlling the temperature to be uniform throughout the cold storage is equally important. In practice, controlling the uniform temperature in cold storage remains challenging due to temperature fluctuations in the storage, which can be as high as 10°C. Air near the Fan Coil Unit (FCU) typically has a lower temperature compared to air further away, especially near the entrance of the cold storage. Therefore, evaluate the performance of temperature control of cold storage regularly by conducting temperature mapping is essential. According to the World Health Organization's Effective Vaccine Management (WHO EVM) standard, temperature mapping for cold storage facilities used for storing medicines and medical supplies must be conducted every 2 years. Meanwhile, the United States Food and Drug Administration (FDA) requires regular monitoring and measurement of temperatures in cold storage used for food storage.